คอลลาเจนไดเปปไทด์ คือ กรดอะมิโน 2 ตัว มาเชื่อมต่อกัน ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า ไดเปปไทด์ คู่ โพลีน และ ไฮดรอกซีโพรลีน (Pro-Hyp) หรือ P-O ไกลซีน และไฮดรอกซีโพรลีน (Hyp-Gly) หรือ O-G มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (เซลล์ผิวที่คอยผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน) สังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ข้อต่อและกระดูก

ผงพีช (Peach Powder) มาจากลูกพีชหรือลูกท้อ ผลมีสีเหลืองส้มอมชมพู รสเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวัยได้ ส่วนเบต้าแคโรทีนในพืชช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระชับกล้ามเนื้อของใบหน้า ช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ พร้อมช่วยบำรุงผิวไปในตัวให้ผิวขาวเนียน ชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน

สารสกัดจากรกปลาแซลมอน หรือ Salmon Ovary Placenta (SOP) สกัดจากเยื่อหุ้มไข่ปลาแซลมอน หรือ เรียกว่ารกปลาแซลมอน ซึ่งส่วนของรกปลาแซลมอน จะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และ กรดอะมิโนจำเป็นเช่น วิตามิน B2,B3,B6,B12 และ Biotin มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายได้แก่ Fe, Cu, Ca, Se, Mn, Mg, Zn และ มีกรดอะมิโนจำเป็นมากมาย

คุณสมบัติเด่นของสารสกัดจากรกปลาแซลมอน มีดังนี้

• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อและผิวพรรณ
• ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ผิวแข็งแรงเนียนนุ่ม และ เพิ่มความชุ่มชื้น
• กรดอะมิโนทริปโตแฟน ร่างกายสามารถนำไปใช้ในการสร้างเมลาโทนิน และ เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท และเป็นหนึ่งในสารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
• ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น
• ช่วยกระตุ้นการสมานเซลล์ผิว
• ช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวมีความกระจ่างใสมากขึ้น

อะเซโรล่าเชอร์รี่ดิบมีแร่ธาตุและสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า ผลอะเซโรล่าเชอร์รี่ดิบจะให้ปริมาณวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ และฟีนอลที่สูงกว่า ผลอะเซโรล่าเชอร์รี่สุก

คุณสมบัติสำคัญของอะเซโรล่าเชอร์รี่ดิบ

• กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
• เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
• ลดคอเลสเตอรอล
• ออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลายมีเพคตินสูงกว่าซึ่งช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ให้สารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มไฟลีนอลสูงกว่า

Pomanox TM สารสกัดจากผลทับทิมสเปน มีแหล่งเพาะปลูกทาง ตอนใต้ และ ตะวันออกเฉียงเหนือ ของสเปน เป็นผลผลิต ส่วนหนึ่งใน แถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล แอนโธไซยานิน กรดเอลลาจิก (Ellagic acid) และเอลลาจิแทนนิน(Ellagitannin) ขจัดสารอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และ ไขมันอุดตันตามผนังหลอดเลือด ในสารสกัดจากทับทิมมีสาร polphenols ที่มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลในการขับถ่ายและเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ดีให้แก่ลำไส้ อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านของผิวพรรณโดยช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ช่วยเสริมการสร้าง Glutathione เพิ่มขึ้นอีก 40% และยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน

• มีสารสำคัญ คือ เอลลาจิค แอซิด มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย

• ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว โดยช่วยยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน ทำให้ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
• ยับยั้งการสร้างเม็ดสีโดยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดสีและการทำงานของเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ขณะเดียวกันลดปัญหาสีของผิวที่เกิดจากการกระตุ้นโดยรังสี UV เช่นการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
• มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งโดยพบว่าสารสกัดจากผลทับทิมสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก

ซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี่ จัดว่ามีสรรพคุณทางยาสูงมาก ทั้งใบ ดอก ผล และเมล็ด

ซีบัคธอร์นเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งและลดการอักเสบของร่างกาย รวมถึงยังมีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย

ซีบัคธอร์นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนในร่างกาย และ ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ในผลของซีบัคธอร์นอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า แคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม

Cerepron สารสกัดจากยีสต์สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงกว่ากลูต้าไธโอน

ดูดซึมได้ดีกว่า เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วมากกว่า

คุณสมบัติหลักๆ ของ Cerepron คือ

ช่วยยับยั้งไม่ให้ร่างกายผลิตเอ็นไซม์ Tyrosinase

ในปริมาณที่มากเกินไปจึงช่วยลดการผลิตเมลานินเม็ดสีดำ (Eumelanin) 

จึงช่วยให้ผิวสว่างขึ้น ไม่คล้ำ สีผิวสม่ำเสมอ

รวมถึงช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย 

และ ช่วยลดริ้วรอยให้กับผิว

สารสกัดจากส้มสีแดง 3 สายพันธุ์จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะที่ปลูกในแถบดินแดนทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

Moro Red Orange
เป็นส้มที่มีรสหวาน มีขนาดเท่าๆ กับส้มทั่วไป ผิวมีจุดประ เนื้อส้มเป็นสีแดงอมน้ำตาล จึงได้ชื่อว่าส้มสีเลือด

Tarocco Red Orange
เป็นส้มที่มีขนาดกลางถึงค่อนข้างใหญ่ผิวมีสีส้ม แต่จะมีสีแดงเรื่อๆ เนื้อข้างในจะมีสีสดจัด เนื้ออ่อนนิ่มมีรสจัด หวานและฉ่ำน้ำมาก

Sanguinelli Red Orange
เป็นส้มที่มีรสชาตอร่อย และฉ่ำน้ำมากมีขนาดผลตั้งแต่เล็กไปจนถึงขนาดกลางมีลักษณะกลมรี รูปไข่ เนื้อข้างในจะมีสีส้มปนริ้วสีแดง มีเมล็ดเล็กน้อย หรือ อาจไม่มีเลย

ส้มทั้ง 3 สายพันธุ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น

สารแอนโทไซยานิน
มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีถึง 2 เท่า ลดการอักเสบ ช่วยปกป้องหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจลดคอเลสเตอรอลในเลือด

สารฟลาโวนอยด์
มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคร้ายแรงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

กรดไฮดรอกซีซินนามิก
ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวและเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ซึ่งช่วยลดการขยายตัวและการสะสมไขมันในเซลล์ไขมันได้ และยังพบว่าช่วยเร่งการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อการเผาผลาญให้เป็นพลังงานแก่ร่างกาย

วิตามินซี
ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของกระดูกอ่อน เหงือก ผิวหนัง และ ฟัน รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง

สรรพคุณสำคัญ

• ช่วยลดผิวหมองคล้ำ และเพิ่มความสว่างสดใสของผิวพรรณอย่างเป็นธรรมชาติ
• ช่วยลดการอักเสบของผิวและลดผื่นแดงจากการผชิญแสงแดด
• ชะลอความเสื่อมโทรมของผิวจากการโดนแสงแดด
• สารสกัดจากส้มสีแดงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย อีกทั้งป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดและหัวใจเป็นต้น

เมื่อเบต้ากลูแคนเข้าสู่ร่างกาย จะถูกย่อยที่บริเวณผนังลำไส้เล็กโดยเซลล์แมโครฟาจในเม็ดเลือดขาว (เซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค) ให้กลายเป็นแท่งเล็กๆ ในรูปแบบ Beta-1,3/1,6-D-Glucan Polysaccharide และเข้าไปจับกับตัวรับสัญญาณของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่คอยกำจัดเชื้อโรค (เซลล์นิวโทรฟิล) เมื่อโครงสร้างสามมิติของเบต้ากลูแคน เข้าไปจับที่ตัวรับสัญญาณบนผิวเซลล์ จะเข้าไปช่วยกระตุ้นเซลล์แมคโครฟาจให้อยู่ในสภาวะตื่นตัว เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้พร้อมสำหรับการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะในสภาวะปกติแล้วเซลล์แมคโครฟาจส่วนใหญ่ จะไม่ทำงานจนกว่าจะมีการตรวจพบสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย,ไวรัส, เชื้อรา หรือ สารเคมีต่างๆ แต่ถ้าหากร่างกายได้รับเบต้ากลูแคนอยู่เป็นประจำ ก็จะคอยช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์แมคโครฟาจ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา และอยู่ในสภาวะที่เตรียมพร้อมและตื่นตัวอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการค้นหาและทำลายเชื้อโรคเกิดได้อย่างรวดเร็ว ระบบภูมิคุ้มกันจึงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สารสกัดจากเมล่อนฝรั่งเศส

ซุปเปอร์ออกไซด์ ดิสมิงเทส, Superoxide dismutase (SOD)  คือ เอนไซม์ชนิดหนึ่งในระบบป้องกัน ที่เป็นตัวทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเผาผลาญภายในเซลล์ เป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญของร่างกาย ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ เอนไซม์ชนิดนี้มีอยู่ในร่างกายตั้งแต่แรกเกิด แต่จะมีปริมาณลดลง เรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น

อาซาอิ เบอร์รี่ ผลไม้มหัศจรรย์ด้านผิวพรรณ ลดริ้วรอย

อาซาอิเบอร์รี่ มีคุณสมบัติในการ ชะลอความแก่ของเซลล์ ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระสาเหตุของความชรา มีประสิทธิภาพในการลดเลือนและต่อต้านการเกิดริ้วรอย เปรียบเสมือน Botox จากธรรมชาติช่วยรักษาโครงสร้างของชั้นผิว ให้ผิวเนียนละเอียด แน่นกระชับดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ

อาซาอิ เบอร์รี่ ยังเป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมายเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ดีเยี่ยมไม่เป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาวเหมือนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญยังช่วยให้ฟื้นฟูผิวที่ต้องเผชิญมลภาวะ สารเคมี การทานอาหารขยะ และการทำร้ายของรังสียูวีได้เป็นอย่างดี

อาซาอิเบอร์รี่มยังช่วยลดจุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยบางๆ ความหย่อนคล้อย สีผิวไม่สม่ำเสมอ และยังสามารถใช้ลดรอยแผลเป็นรอยแตกลาย แก้ปัญหาผิวแห้งได้

ปัจจุบันมีอาหารที่อ้างว่ามีคุณสมบัติในการชะลอวัยหลากหลายทำให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา หรือ USDA จัดมาตรฐานสำหรับการตรวจวัดความสามารถในการชะลอวัย หรือ การต่อต้านอนุมูลอิสระในอาหารต่างๆ ซึ่งเรียกกันว่า ค่า  ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) โดยอาซาอิ เบอร์รี่ จัดเป็นผลไม้ ที่มีการต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นลำดับต้นๆ ในโลก เทียบเท่ากับการทานมะเขือเทศถึง 188 ผล เพื่อให้ได้ค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระเท่ากับAcai Berry 10 g

มากิเบอร์รี่ เป็นพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เมื่อเทียบกับน้ำหนัก

มากกว่า อาซาอิเบอร์รี่ 5 เท่า และมากกว่าโกจิเบอร์รี่ถึง 9 เท่า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กลุ่มแอนโทไซยานิน ชื่อเดลฟินิดิน มี Anthocyanidin สูงสุด 35% และ Polyphenol รวม 65% ซึ่งมีฤทธิ์สูงมาก

นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม กรอไขมันโอเมก้า 6 และ 9 รวมไปถึงวิตามินอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 3 อีกด้วย

ประโยชน์ของ มากิ เบอร์รี่

• มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
• ปกป้องและบำรุงสายตา
• ช่วยลดการเผาผลาญ
• ชะลอความเสื่อมของร่างกายของผิวพรรณ
• เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เสริมสร้างระบบลำไส้

บร็อคโคลี (Broccoli) หรือ กะหล่ำดอกอิตาลี เป็นผักตระกูลกะหล่ำ

บร็อคโคลีมีสารอาหารที่ดีต่อหัวใจ โดยพบว่าบร็อคโคลีสดจำนวน 1 ถ้วยสามารถให้วิตามินซีมากถึง 200 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และยังให้เบต้าแคโรทีนอีก 90 เปอร์เซ็นต์

สรรพคุณเด่นของบร็อคโคลี

• มีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ในร่างกายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
• มีวิตามินอี ซึ่งจะช่วยลดการถูกทำร้ายของหลอดเลือดจาก LDL หรือไขมันชนิดเลว ซึ่งก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้โรคหัวใจกำเริบเช่นกัน จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม คนที่ทานบร็อคโคลีเป็นประจำ จึงมักจะไม่เป็นโรคหัวใจได้ง่าย
• สารฟลาโวนอยด์ เป็นสารที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจล้มเหลวได้เป็นอย่างดี โดยสารตัวนี้จะพบมากในชา ผักผลไม้ทั่วไป อีกทั้งยังมีบทบาทที่คล้ายกับวิตามินซี และวิตามินอีอีกด้วย นอกจากนี้ฟลาโวนอยด์ ก็จะช่วยลดการจับตัวเป็นก้อนของเลือดได้อีกด้วย

ชิแซนดร้าเบอร์รี่ (Schisandra) เป็นสมุนไพรช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ช่วยให้ร่างกายต้านทานต่อโรคต่างๆ และความเครียดได้ดี บำรุงตับและป้องกันสารพิษเข้าทำลายเซลล์ตับโรคตับอักเสบ (hepatitis) ส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต (Adrenal grands) แก้อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง(Chronic Fatique Syndrome Symptom) เป็นยาชูกำลัง

สรรพคุณของชิแซนดร้า เบอร์รี่

• ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
• ลดความเครียด ส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลลดความเครียดเมื่อเกิดสภาวะความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
• บำรุงตับและระบบย่อย ช่วยเพิ่มเอนไซม์ กิจกรรมการกำจัดอนุมูลอิสระภายในเซลล์ ระบบการไหลเวียนเลือดระบบย่อยอาหาร การกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
• ปกป้องผิว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะต่างๆ
• บำรุงสุขภาพจิต ช่วยทำให้อารมณ์ดี สดชื่น
• บำรุงสุขภาพทางเพศ เพิ่มฮอร์โมนเพศทั้งชายและหญิง ปรับสมดุลฮอร์โมน

เรสเวอราทรอล (Resveratrol) คือ สารพฤษเคมีพบมากที่สุดในองุ่น โดยเฉพาะส่วนของเปลือกองุ่น (Grape Skin) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม มีผลต่อการชะลอความชราของร่างกาย และความเสื่อมของร่างกาย เช่นป้องกันความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง ป้องกันภาวะโรคสมองเสื่อม และป้องกันความเสื่อมของผิวหนังมนุษย์

นอกจากนั้น เรสเวอราทรอล ยังคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและลดความหมองคล้ำ

การบริโภคสารสกัดจากเปลือกองุ่นที่อุดมไปด้วย เรสเวอราทรอล ลดการอักเสบของผิวหนังมนุษย์ จากรังสี UVA และUVB กล่าวคือ เรสเวอราทรอล มีผลยับยั้ง เอนไซม์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง เช่น Metalloproteinases (MMPs) จึงช่วยลดการทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ผิวหนังจึงมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการริ้วรอย อีกทั้งการรับประทานResveratrol กระตุ้นสารต้านอนุมูลอิสระในรูปเอนไซม์ เช่น ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิงเทส(SOD) และกลูทาไทโอนเพอร์ออซิเดส ลดอาการบาดเจ็บของเซลล์ภายใต้การออกซิเดชั่นของ UVA มีผลช่วยให้ผิวหนังมีความสว่างใส

แอสต้าแซนธินจากธรรมชาติ สกัดได้จาก สาหร่ายสีแดง Microalgae Haematococcus Pluvialis จากประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการสกัด ด้วยระบบปิด ปราศจากการปนเปื้อน ไม่ใช้สารเคมี ทำให้ได้แอสต้าแซนธินธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% มีคุณภาพสูง

มีปริมาณความเข้มข้นคงที่ ทำให้เรามั่นใจ ในการเลือกรับประทานแอสต้าแซนธินธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะมีความปลอดภัย ไม่สะสม และที่สำคัญคือมีการะบุแหล่ง ที่มาอย่างชัดเจน ภายใต้คุณภาพการผลิตระดับสากล

ข้อดีของแอสต้าแซนธิน

• มีสารต้านอนุมูลอิสระ
• ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ชะลอความชรา ลดริ้วรอย
• ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ
• ช่วยบำรุงสายตาลดอาการเมื่อยล้าของสายตา
• ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
• ช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหาร

แอสต้าแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แอสต้าแซนธินมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ได้ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งแตกต่างกับ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น ที่แค่ช่วยปกป้องภายในหรือภายนอกของเยื่อหุ้มเซลล์เท่านั้น ดังนั้นแอสต้าแซนตินสามารถปกป้องเซลล์ได้ครอบคลุมมากกว่านั่นเอง

มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทําการศึกษาประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ พบว่า แอสต้าแซนธินมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้แรงกว่าสารชนิดอื่น ดังนี้

• วิตามิน ซี 6,000 เท่า
• CoQ10 800 เท่า
• วิตามิน อี 550 เท่า
• Green tea catechins 550 เท่า
• Alpha lipoic acid 75 เท่า
• เบต้าแคโรทีน 40 เท่า
• สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า

สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว (White Jelly Fungus) สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาวสกัดจากเห็ดหูหนูขาวสกัดมาจากทั้งดอกของเห็ดหูหนูขาว มีประสิทธิภาพในการรักษาน้ำไว้ที่ตัวได้มากกว่า Hyaluronic Acid ในทั้ง 2 สภาวะ ในสภาวะที่มีความเป็นกรดสูงอย่างเช่นสภาวะความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร พบว่าประสิทธิภาพในการรักษาน้ำของHyaluronic Acid ลดลงอย่างมาก ประมาณ 19 เท่า เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของสารสกัดจาก เห็ดหูหนูขาว

สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว SOD ซึ่งสามารถช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ และ ช่วยในการสร้างเส้นใย Fibroblasts มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ผิวเด้งนุ่มขึ้น

สารสกัดสำคัญประกอบด้วย Polysaccharide และ Glucuronic มีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำ, กักเก็บน้ำ ไว้ในตัวและละลายน้ำได้เชช่นเดียวกับ Hyaluronic Acid

บีทรูท มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์หลากหลายชนิดในปริมาณที่สูง อาทิเส้นใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินรวม วิตามินบีรวม วิตามินซี เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม เหล็ก และ ยังมี สารเบทานิน  เป็นสารที่ให้สีแดงและเป็นกรดอะมิโน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการเกิดโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานภายในของร่างกายโดยเฉพาะระบบไหลเวียนเลือดสะดวกขึ้น นอกจากนี้บีทรูทก็เป็นแหล่งของสารต้านอนุมุลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นสารแอนโทไซยานิน และสารไลโคพีน เหล่าสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีขึ้น นอกจากนี้บีทรูทก็เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็น สารแอนโทไซยานิน และสารไลโคพีน เหล่าสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีนี้จะมีประโยชน์ต่อเซลล์ผิวหนัง ไม่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพเร็ว ลดความเสี่ยงจะเกิดโรคต่างๆ ได้มาก

• สารสกัดจากบีทรูทที่อุดมไปด้วยไนเตรดเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดสูง ช่วยลดการสะสมไขมันและลดการอุดตันในหลอดเลือด
• เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยรักษาอาการท้องผูก
• บีทรูทมีสารต่อต้านอนมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย การดื่มน้ำบีทรูทเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างพละกำลังและความแข็งแรง ลดอาการเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกาย ทำให้มีความอดทนได้มากขึ้นถึง 16%
• ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
• ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
• ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งและลดการเจริญเติบโตของเนื้องอก
• ช่วยบำรุงสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง
• การดื่มน้ำบีทรูทมีส่วนช่วยลดความดันเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง

วิตามินซี Calcium Ascobate 97% เป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำได้ง่าย จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็ว แต่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถผลิตวิตามินซีขึ้นมาเองได้ เราจึงจะได้รับวิตามินซีผ่านการทานอาหารเท่านั้น

Calcium Ascobate 97% (pH 7.6-8.0) มีความเป็นกรดน้อยกว่าวิตามินซีในรูปกรดแอสคอร์บิก (pH 2.1-2.8) จึงมีผลระคายเคืองกระเพาะอาหารน้อยกว่ากรดแอสคอร์บิก

ประโยชน์จากวิตามินซี ที่ทำให้ผิวสวยขึ้น

• เสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย วิตามินซีช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ เพราะว่าวิตามินซีเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวเราผลิตคอลลาเจนออกมาได้มากขึ้น เมื่อผิวเรามีคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยไปด้วย
• เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว วิตามินซีไม่ได้แค่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องลดริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับผิวที่หมองคล้ำ ให้กระจ่างใสขึ้นได้ด้วย เหตุผลที่วิตามินซีช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้เนื่องจากวิตามินซีสามารถลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวของเราได้ และยังมีส่วนกระตุ้นให้กลูต้าไธโอนและวิตามินอีผลิตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ไฟโตเซราไมด์ สารสกัดจากข้าวญี่ปุ่น มีคุณค่าทางสารอาหารต่างๆมากมาย และที่สำคัญเซราไมด์จากข้าวญี่ปุ่นมีปริมาณ สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) มากที่สุด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ นอกจากนั้นสฟิงโกไลปิดที่ได้จากข้าวญี่ปุ่นมีโครงสร้างที่เหมือนกับของมนุษย์เรามากที่สุดอีกด้วย

ประโยชน์ของเซราไมด์ต่อผิวคือ

1. ปกป้องเซลล์ผิว เสมือนเกราะป้องกันผิวจากสิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง
2. ทำหน้าที่อุ้มน้ำและรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนัง
3. ลดการสูญเสียน้ำและป้องกันการระเหยของน้ำจากชั้นผิว เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง ผิวจึงอิ่มน้ำ
4. ลดการสังเคราะห์เม็ดสีผิว ลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ และ จุดด่างดำ ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น